ในช่วงเวลาที่คนเรานั้นกำลังเผชิญกับปัญหาชีวิตที่ติดขัด จมหรือวนลูปอยู่ในภาวะที่มีความเครียดเรื้อรัง กดดัน วิตกกังวล หรืออยู่ใน ภาวะซึมเศร้า ก็มักจะหาที่พึ่งทางใจ เพราะอยากก้าวออกจากจุดที่เป็นอยู่ไปได้ อยากมีใครสักคนที่เข้าใจคอยรับฟังพูดคุยระบาย อยากหาทางออกให้กับปัญหา ช่วงเวลาแบบนี้คนเรามักจะขาดสติ และมักถูกชักนำได้ง่าย หากเจอผู้ที่ไม่ประสงค์ดีหรือเรายังไม่พร้อมที่จะเข้ารับการเยียวยาบำบัดแบบนั้น รวมทั้งยังขาดความรู้ความเข้าใจ ก็อาจจะทำให้เราหลงทาง ติดกับทางความคิด หรือวนลูปอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกด้านลบ เราอาจถูกนำพาไปในทิศทางที่แย่ลงได้ จีนำ กรณีศึกษา อุทธาหรณ์เลือกการเยียวยาผิด ชีวิตติดกับ ซี่งเป็นกรณีศึกษาที่จะช่วยเป็นอุทธาหรณ์ และเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่กำลังค้นหาการเยียวยาบำบัดจิตใจ ได้ตระหนักรู้ ได้ข้อคิดเตือนใจและเลือกการเยียวยาบำบัด ที่เหมาะสมให้กับตัวเองได้มากขึ้น
คุณวัน (นามสมมติ) ทักแชทมาสอบถามรายละเอียดเรื่องการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก คุณวันสงสัยว่า การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกนั้น เหมือนการสะกดจิตไหม จีได้อธิบายและส่งข้อมูลบทความ เพื่อเพิ่มเติมความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคุณวัน และได้สอบถามข้อมูลความเจ็บป่วยทางใจ รวมทั้งการรักษาบำบัด เพราะคุณวันบอกว่าเป็นซึมเศร้า แพนิกและวิตกกังวล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และบอกว่าไม่ได้รับการรักษาด้วยยา หลังจากจีได้แชทพูดคุยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีความเข้าใจตรงกัน ทั้งในเรื่องโรคต่าง ๆ ดังกล่าว และการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกตามแนวทางของจี รวมทั้งการสะกดจิตที่คุณวันเคยได้รับการบำบัดมา จึงทำให้จีได้เข้าใจคุณวัน และอาการต่าง ๆ รวมทั้งสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญมากขึ้น
เลือกการเยียวยาบำบัดผิด ชีวิตติดกับ
กรณีศึกษาของคุณวัน เป็นเคสที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาชีวิต อยู่ในภาวะซึมเศร้าหรือป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และโรคทางจิตเวชอื่น ๆ ที่พยายามจะหาที่พึ่งทางใจ ชอบไปหาหมอดู คนที่ชอบปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ หรือฝึกเจริญสติ รวมทั้งเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาการเยียวยาบำบัดทางเลือกอื่น ๆ ด้วย เช่น การสะกดจิต โค้ชชิ่ง NLP การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ล้วนมีประโยชน์ แต่ถ้าหากเราขาดความรู้ความเข้าใจ ยังไม่พร้อมเพื่อเข้ารับการเยียวยา หรือทำอย่างไม่เหมาะสมหรือถูกต้อง มันจะพาเราหลงทางและยิ่งทำให้อาการซับซ้อน สับสนได้มากทีเดียว รวมทั้งต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาบำบัดมากมาย
จีเจอกรณีศึกษาแบบนี้หลายเคส ต้องขอยอมรับว่าไม่ง่ายและต้องใช้เวลา เยียวยาแก้ไขปมปัญหาภายในใจของผู้เข้ารับการบำบัดที่มีสะสมอยู่ก่อนแล้ว และความซับซ้อนของความคิดจิตใจที่เกิดขึ้น หลังจากไปเยียวยาบำบัดที่อื่นมาแล้วมันมีมากขึ้น เพราะเพื่อน ๆ เสียค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ผลไม่ได้เป็นไปในแบบที่คาดหวัง จนทำให้รู้สึกสูญเสียและผิดหวัง จนนำพาไปสู่ความรู้สึกสิ้นหวัง ก็ต้องค่อย ๆ แก้ไขไปทีละปม ส่วนใหญ่เพื่อน ๆ ก็มักไม่ค่อยมีเวลาในการเยียวยาบำบัดอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญมีกำแพงใจ หรือกลไกปกป้องตัวเองที่ทำให้เข้าถึงได้ยาก ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเยียวยาบำบัดมากทีเดียว
จีค่อย ๆ ให้คุณวันเล่าให้ฟังว่า เคยได้รับการเยียวยาบำบัดจิตใจแบบใดมาบ้าง และมีเหตุการณ์ใดที่สามารถส่งผลต่อจิตใต้สำนึกของเธอบ้าง เพราะสิ่งที่จีได้สัมผัสรับรู้จากคุณวันในการได้โทรพูดคุยกันนั้น เธอมีความสับสน มีความขัดแย้งภายในใจ มีความคิดกระโดดไปมา ไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดในการเล่าเรื่อง เพื่อสื่อสารให้เข้าใจง่าย มีความกลัว ความวิตกกังวล และมีอารมณ์ความรู้สึกด้านลบที่ท่วมท้น จนส่งผลให้มีอาการแพนิก จีได้รับฟังและสรุปออกมา เพื่อหาแนวทางในการเยียวยาแก้ไขได้อย่างถูกต้องเหมาะสมมากขึ้น
คุณวันเล่าให้ฟังว่าเคยไปดูดวงกับหมอดู เคยสะกดจิตบำบัด เคยฝึกปฏิบัติธรรม โค้ชชิ่งกับโค้ชชื่อดัง และปรึกษานักจิตวิทยา ตามลำดับดังนี้ คนแรกและคนที่สอง คือ หมอดู ถูกทักไม่ดีเรื่องชีวิตคู่ ส่งผลให้คุณวันจิตตกเป็นอย่างมาก คนที่สาม คือ อาจารย์สมาธิ ซึ่งเป็นการฝึกทำสมาธิ แบบเพ่ง คนที่สี่ เป็นอาจารย์ที่สอนการฝึกเจริญสติ เธอฝึกอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ด้วยการปฏิบัติที่ตึงเกินไป ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่สภาวะจิตใจ เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกด้านลบที่ท่วมท้น จึงทำให้เกิดความขัดแย้งภายในใจ ส่งผลให้มีปัญหาความสัมพันธ์กับครอบครัว ทำให้คุณวันรู้สึกสับสนหลงทาง และประสบกับปัญหาชีวิตติดขัดได้ชัดเจน เกิดความคิดที่ไม่ดีต่อตัวเอง และสร้างความเครียด ความกดดัน รวมทั้งความวิตกกังวลที่สูงมาก
คนที่ห้า คือ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสะกดจิตบำบัด เธอบอกว่าเหมือนท่านพูดแบบรวม ๆ แต่ก็ยังไม่เห็นผลดีชัดเจน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญท่านนี้มีหลายเคสที่เคยเข้ารับการเยียวยาบำบัดมาแล้ว ได้มาพูดคุยเล่าถึงประสบการณ์ให้จีฟัง และมาพร้อมกับความรู้สึกผิดหวังกับความรู้สึกสูญเสียค่าใช้จ่ายที่สูงจนน่าตกใจ คนที่หก โค้ชชิ่งกับโค้ช จีรับรู้ถึงความคาดหวังและความผิดหวังของคุณวันกับโค้ชท่านนี้อย่างชัดเจน คนที่เจ็ด นักจิตบำบัด ทำจิตบำบัดและสะกดจิต อีก 2 ครั้ง คนที่แปด เป็นนักจิตวิทยา ซึ่งโทรพูดคุยปรึกษา และคุณวันเพิ่มเติมว่าเธอเคยไปพบจิตแพทย์แล้ว คุณหมอจะให้กินยาเลยไม่ขอรักษา จากที่เธอได้เล่าแล้วจีสรุปดังที่ได้กล่าวมานี้ ส่งผลให้เธอยิ่งมีความกลัว ความวิตกกังวล ความกดดันและกระตุ้นอาการของเธอให้รู้สึกแย่ลง จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
คลายปมปัญหาและเยียวยาบำบัดจิตใจ
ช่วงแรกที่จีได้พูดคุยและรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นจากคุณวัน เพื่อแพลนการเยียวยาบำบัดจิตใจและพัฒนาตัวเองตามแนวทางของจี ซึ่งค่อนข้างสับสนกับเรื่องราวที่คุณวันเล่า เพราะตอนนั้นอาการเธออยู่ในช่วงความรู้สึกที่ดาวน์ มีความหดหู่ เศร้าหมอง และสับสนในตัวเอง รวมทั้งสถานการณ์ที่ต้องเผชิญทั้งที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เธอยอมรับว่าก่อนหน้านั้นเธอเหมือนสติหลุด หรือเรียกว่าสติแตก รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จนมีอาการแพนิก กลัว กังวล มีความรู้สึกนึกคิดด้านลบวนลูป จีใช้การเยียวยาจิตใจแบบประคับประคองและโทรพูดคุย รับฟัง รวมทั้งช่วยให้คุณวันได้ตั้งสติและตระหนักรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตจิตใจตัวเอง สะท้อนให้เห็นปัญหาที่แท้จริง และแนวทางเยียวยาแก้ไขที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อก้าวข้ามผ่านจากจุดที่เป็นอยู่ได้ง่ายขึ้น
ในคอร์สเยียวยารักษาใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตนั้น เบื้องต้นจีจะให้เพื่อน ๆ ทำแบบทดสอบต่าง ๆ เพื่อทำความรู้จักกับตัวเองและตระหนักรู้ในตนเองมากขึ้น และมี Workshop ต่าง ๆ ที่ช่วยให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองในทักษะชีวิตที่สำคัญ จีให้คุณวันทำ แบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI เพื่อช่วยให้เธอตระหนักรู้ถึงจุดแข็งหรือข้อดีของตัวเอง เพื่อพัฒนาและดึงศักยภาพที่ดีงามออกมาใช้ได้มากขึ้น และตระหนักรู้ถึงจุดอ่อนที่จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะฝึกรับมือและจัดการ เพราะมันเป็นปัจจัยที่มักจะก่อให้เกิดปัญหาในชีวิต รวมถึงจะได้มองเห็นจุดที่จำเป็นต้องเรียนรู้และพัฒนา เพื่อช่วยให้สามารถสร้างทักษะชีวิตต่าง ๆ ในการรับมือและจัดการ เพื่อพาตัวเองก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ง่ายขึ้น ส่วนในเรื่องของ EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ ผลอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าปกติ แสดงให้เห็นถึงทักษะในการรับมือและจัดการกับอารมณ์ตัวเอง
หลังจากที่ได้โทรพูดคุยด้วยกับคุณวันอย่างต่อเนื่อง จีจึงได้รับข้อมูลที่ละเอียดและเข้าใจได้มากขึ้นกับสภาวะจิต สภาวะอารมณ์และสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภายในใจของคุณวัน ทั้งที่เป็นผลกระทบที่ซับซ้อนจากการเข้ารับการเยียวยาบำบัด การไปหาหมอดู และการฝึกปฏิบัติธรรมที่ผ่านมา จนส่งผลให้เธอมีความกลัว ความกังวล ความสับสนในตัวเองเป็นอย่างมาก และด้วยบุคลิกภาพของเธอ รวมทั้งปมปัญหาขัดแย้งภายในใจ ประกอบกับอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดด้านลบ (Trapped Emotion) ที่ผุดออกมาจากจิตใต้สำนึก รบกวนการใช้ชีวิตของเธอ สะท้อนให้เห็นว่า “จิตสำนึก” และ “จิตใต้สำนึก” ทำงานขัดแย้งกันอย่างชัดเจน
จึงจำเป็นต้องใช้แนวทางในการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก แต่สิ่งที่ไม่ง่าย คือ เธอเองเคยเข้ารับการเยียวยาบำบัดแบบสะกดจิตและทำจิตบำบัดมาแล้ว ไม่ได้ผลดีอย่างที่เธอคาดหวัง จึงทำให้มีทัศนคติหรือความลังเลสงสัย ไม่มั่นใจหรือเรียกว่ามีกำแพงใจ การเยียวยาบำบัดของจีจึงจำเป็นต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ประกอบกับการหาช่วงเวลาที่ตรงกันในการเยียวยาบำบัดนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะเธอเพิ่งย้ายไปอยู่ต่างประเทศ นอกจากนี้จีค้นพบว่าคุณวันมีพื้นอารมณ์ขี้กังวล คิดมาก เข้าข่ายเป็น Perfectionist ขาดความยืดหยุ่น และยึดติดกับความเชื่อบางอย่าง โดยเฉพาะความเชื่อด้านลบที่ทำให้ชีวิตติดขัด จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เล่ามาก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องการไปพบหมอดูและการเข้ารับการเยียวยาบำบัดต่าง ๆ นั้น แล้วก็พบว่าเธอมีปมและบาดแผลทางใจในวัยเด็ก และประสบการณ์บางอย่างที่ทำให้เกิดความคิดด้านลบอัตโนมัติ ส่งผลให้เธอสับสนในตัวเอง
หลังจากที่ช่วยให้คุณวันได้ปลดปล่อยพลังงานลบ ๆ ที่ฝังใจ คลายปมปัญหาภายในใจ อาการของคุณวันค่อย ๆ ทุเลาลง มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่ความคิดอัตโนมัติที่พาเธอวนลูปนั้นยังคงรบกวน และต้องใช้เวลาฝึกฝนในการฝึกรู้เท่าทันความคิดด้านลบอัตโนมัติที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้หลงไปวนลูปอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดด้านลบแล้วพาให้อารมณ์ดิ่งเหมือนเดิมอีก นอกจากนี้เรายังต้องปรับวิธีการฝึกปฏิบัติธรรมให้ถูกต้องถูกทาง เนื่องจากแนวทางที่คุณวันได้เรียนรู้มานั้นตึงเกินไป ทำให้คุณวันปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งเครียด มีความเชื่อที่ทำให้เธอรู้สึกกดดัน และสับสนในตัวเองมากเกินไป
ในที่สุดคุณวันก็สามารถที่จะก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิตไปได้ เธอมีความสุขกับครอบครัว การทำงาน และการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง เธอสามารถดึงศักยภาพที่ดีงามของเธอออกมาใช้ ในการรับมือและจัดการกับปัญหาที่ต้องเผชิญได้ดีขึ้นเป็นลำดับ มีความสุขกับการปฏิบัติธรรมที่บ้านและทำได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พาชีวิตตัวเองกลับสู่สุขภาวะที่สมดุลและมีความสุขในแบบที่เธอต้องการ
ข้อคิดและสิ่งที่ได้เรียนรู้
1. ในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า หรือสถานการณ์ชีวิตที่ต้องเผชิญกับปัญหาถาโถม เราจะรู้สึกกลัว วิตกกังวล มองไม่เห็นทาง เพราะเราขาดสติ หลายคนพึ่งหมอดู พอถูกทักไม่ดียิ่งทำให้เครียด กังวล แย่ลงไปอีก บางคนรู้สึกดิ่งหรือดาวน์ไปเลย โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือเป็นโรคซึมเศร้า ถ้าหลีกเลี่ยงได้จะดีมาก เพราะช่วงนั้นจิตใต้สำนึกเราจะเปิด ถ้ารับข้อมูลไม่ดีมามันจะฝังลงไปในจิตใต้สำนึก และจะยิ่งทำให้เราแย่ไปกันใหญ่ ทางที่ดีควรไปพบจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตใจ เพื่อวินิจฉัยอาการและเข้ารับการรักษา หรือคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสมก่อนจะดีกว่าค่ะ
2. การเยียวยาบำบัดจิตใจจากผู้เชี่ยวชาญมีประโยชน์และได้ผลดี หากเราเข้าใจและเลือกได้อย่างถูกต้องเหมาะสม กรณีที่เรามีภาวะซึมเศร้า ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคทางจิตเวชอื่น ๆ การเยียวยาบำบัดจะได้ผลดี หากเราเข้ารับการบำบัดในช่วงเวลาที่เหมาะสม และทำอย่างต่อเนื่อง หมายถึงเรามีสติมากพอที่จะควบคุมตัวเอง เปิดใจรับการบำบัดให้ความร่วมมือ หรือผู้ป่วยมีอาการทรงตัวดีแล้ว เพราะถ้าหากเรายังไม่พร้อมหรือเลือกการเยียวยาที่ไม่เหมาะสม นอกจากจะไม่ได้ผลดีอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว จะยิ่งทำให้อาการที่มีอยู่ซับซ้อนมากขึ้น และรักษาบำบัดได้ยากขึ้น รวมทั้งยาวนานขึ้นอีกด้วย
3. หลายคนอาจยังไม่ตระหนักรู้ว่า เวลาคนเราเกิดความเจ็บป่วย จิตใต้สำนึกของคนเราจะเปิด ความรู้สึกนึกคิดหรืออารมณ์ด้านลบที่เราเก็บกดเอาไว้ที่อยู่ในจิตใต้สำนึกจะผุดขึ้นมา ส่งผลให้เรามีอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดด้านลบมากกว่าปกติ หรือที่เรียกว่าเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ท่วมท้น และมีความยากลำบากในการรับมือ ซึ่งเราอาจยังไม่เข้าใจ หรือไม่รู้ว่าจะรับมือกับมันยังไง เพื่อที่จะก้าวข้ามช่วงเวลานี้ไปได้ หลายคนติดกับและวนลูปกับอารมณ์ความรู้สึกที่ท่วมท้นนี้ จนนำพาไปสู่ความรู้สึกดิ่งดาวน์ จีเองก็เคยมีประสบการณ์มามันทำให้จีสามารถที่จะทำร้ายตัวเอง และฆ่าตัวตายมาแล้ว
4. อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดด้านลบที่ผุดออกมาจากจิตใต้สำนึกนั้น มีพลังและมีอิทธิพลต่อวิธีคิดและจิตใจเราเป็นอย่างมาก การได้รับการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกจากผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้มีประสบการณ์จะช่วยเคลียร์ และปลดล็อกปมปัญหาขัดแย้งภายในใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมมากกว่า อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถปรับจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกให้ทำงานสอดคล้องกลมกลืน และสามารถดึงศักยภาพที่ดีงามที่เราอาจไม่เคยรู้ว่าเรามี รวมทั้งเรียนรู้ที่จะใช้ พลังจิตใต้สำนึก ของตัวเองมาใช้สร้างคุณค่าและประโยชน์ ทั้งต่อตัวเราเองและผู้อื่นได้มากขึ้น การใช้ชีวิตของเราก็จะง่ายขึ้น สามารถมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้นอีกด้วย
ขอขอบคุณ คุณวัน (นามสมมติ) ที่อนุญาตให้แชร์เรื่องราวและประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป ขอให้คุณวันมีความสุขมีพลังดี ๆ ในการใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีคุณค่า ประสบความสำเร็จในชีวิตในแบบของตัวเอง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ชีวิตติดขัดไปได้ด้วยดีค่ะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม : เยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้า/โรคจิตเวชแบบองค์รวม
