จากการที่จีได้เคยแชร์บทความ จิตใต้สำนึกคืออะไร? และมีอิทธิพลกับชีวิตเราอย่างไร? รวมทั้งการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกออนไลน์ ที่เป็นบริการหนึ่งของจีที่ช่วยเยียวยาบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและโรคจิตเวชอื่น ๆ รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาชีวิตติดขัด ซึ่งเป็น การเยียวยาบำบัดจิตใจที่สำคัญมากและสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อคุณภาพชีวิตและจิตใจของจีและเพื่อนผู้ป่วย รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้ป่วยแต่มีปัญหาชีวิตติดขัด ไม่มีความสุขกับชีวิต ให้ได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีพลังและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นแล้วหายป่วยได้ หลายคนสงสัยว่า การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกคืออะไร? มีกระบวนการอย่างไร? แล้วถ้าหากต้องการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกออนไลน์กับจีต้องทำยังไงบ้าง? วันนี้จีนำข้อมูลความรู้เพิ่มเติมมาแชร์กันค่ะ
“การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก” คืออะไร?
การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก เป็นการเยียวยาบำบัดจิตใจที่ลึกซึ้ง ซึ่งเป็นการบำบัดอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีปมปัญหาขัดแย้งภายในใจหรือบาดแผลทางใจ ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตหรือสร้างปัญหาชีวิตในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน ความรักความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งสามารถสร้างความเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและโรคจิตเวชอื่น ๆ
การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่ในเมืองไทยนั้นยังไม่แพร่หลายหรือเป็นที่รู้จักกันเท่าที่ควร ปัจจุบันมีการให้ความสำคัญต่อ “การปรับกระบวนการของจิตใต้สำนึก” (Subconscious Mind Programming) เพราะเชื่อว่า…
“จิตใต้สำนึก (Subconscious Mind) มีพลังมากกว่า “จิตสำนึก” (Conscious Mind) และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริงและหยั่งรากลึก ถ้าเราสามารถปรับกระบวนการของจิตใต้สำนึกได้สำเร็จ พลังของจิตจะมุ่งไปยังสิ่งที่เราปรารถนา และเป็นการเติม “พลังงานบวก” ให้จิตใต้สำนึกอีกด้วย
คนไทยบางกลุ่มมักจะเรียก การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก ว่า “การสะกดจิตบำบัด” ซึ่งคำนี้แปลมาจากคำว่า Hypnotherapy ซึ่งในปี ค.ศ. 1973 ดอกเตอร์จอห์น แคปแพส (Dr. John Kappas) ได้อธิบายวิธีการนี้ว่า เป็นการเปลี่ยนทิศทางการติดยึดของ “จิต” จากเรื่องที่เป็น “ปัญหา” ไปยังสาเหตุของปัญหาที่ยังฝังตัวในระดับจิตใต้สำนึก
ในยุคแรก ๆ นั้น “การสะกดจิตบำบัด” จะใช้วิธี “สั่งจิต” (Direct Suggestion) คือ การใช้ภาษาที่สื่อสารกับจิตใต้สำนึกแบบตรงไปตรงมา เพื่อชี้นำให้จิตมุ่งไปที่สภาวะใหม่ที่ต้องการ ผลลัพธ์คือ จิตจะไปสนใจในประเด็นใหม่ แต่ ในปี ค.ศ.1950 เมื่อศาสตราจารย์มินตัน เอช อีริคสัน (Prof. Milton H. Erickson) ได้คิดค้นการใช้ภาษาแบบละมุนละม่อมในการสื่อสารกับจิตใต้สำนึก เพื่อให้จิตคลายความตึงเครียด แล้วโน้มน้าวจิตให้จิตเปลี่ยนการสนใจจาก “มุมมองที่ก่อให้เกิดปัญหา” ไปสนใจกับ “มุมมองที่ไม่เป็นปัญหา”
และวิธีการใช้ภาษาพูดของศาสตราจารย์มินตัน เอช อีริคสัน นี้ได้ถูกต่อยอดและพัฒนาเพิ่มเติม จนมาสู่ การโปรแกรมภาษาระบบประสาท หรือ Neuro-linguistic programming (NLP) นอกจากนี้ NLP ก็ถือได้ว่าเป็นกลุ่มจิตบำบัดกลุ่มแรก ๆ ที่แยกตัวจากกลุ่มสะกดจิตบำบัด นอกจากนี้ การโปรแกรมภาษาระบบประสาท ต่างจากการ “สั่งจิต” ตรงที่กระบวนการนี้มีการสร้าง “ปัญญา” ในจิตใต้สำนึก เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนมุมมอง
ยังมีการทำจิตบำบัดอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวจากการสะกดจิตบำบัด ซึ่งเกิดขึ้นก่อน กล่าวคือใน นักจิตวิทยาบำบัด ดร.ปีแอร์ แจเน็ต (Dr.Pierre Janet) และ คาร์ล ยุง (Carl Jung) ได้คิดวิธีการบำบัดที่ลึกกว่านั้น เรียกว่า “การย้อนรอยอดีตชาติบำบัด” หรือ Past Life Regression Therapy (PLRT) ซึ่งมีงานวิจัยบ่งชี้ว่า “การย้อนรอยอดีตชาติบำบัด” ให้ผลการบำบัดที่ดีกว่า การโปรแกรมภาษาระบบประสาท (NLP) และ “การสั่งจิต” เนื่องจากวิธีการย้อนรอยอดีตบำบัด ส่งผลให้
- เกิดการ “ถอดถอน” พลังงานลบตกค้างออกจากความจำระยะยาว
- เกิดการสร้าง “ปัญญา” ในจิตใต้สำนึก
- เกิดการเข้าถึงระดับความทรงจำ (Memory) ที่ “ลึกกว่า” ระดับความจำของ “เทคนิคโปรแกรมจิตใต้สำนึก” (NLP)
![]() |
|
“การบำบัดจิตใต้สำนึกด้วยการย้อนรอยอดีต” แต่ดั้งเดิมและแพร่หลายในตะวันตกและประเทศไทยมี 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
- การรื้อฟื้นเหตุการณ์จาก “ความจำระยะยาว” ซึ่งจิตของเรายังยึดติดกับเรื่องราวและอารมณ์ที่ผูกติดกับเรื่องราวนั้น แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะผ่านไปนานมากแล้ว แต่เราไม่รู้ตัวว่ามันยังคงทำงานอยู่
- การตามดูเรื่องราวและอารมณ์นั้น จนพบกับเหตุการณ์วิกฤติ (Critical Incident) ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหา พลังงานลบมากมาย ยังคงทำงานอยู่ และปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าในสมองในระดับคลื่นความถี่ที่ยุ่งเหยิง และเกิดการโยงพลังงานจากคลื่นความถี่ที่ยุ่งเหยิงนี้จากความทรงจำระยะยาวมายังความจำระยะสั้น “โดยที่เราไม่รู้ตัว”
- การเรียนรู้เรื่องราวจากเหตุการณ์ และอารมณ์ในอดีต เพื่อพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น
- การปลดปล่อย “อารมณ์เก็บกด” ออกจากความจำระยะยาว ส่งผลให้คลื่นความถี่ของสมองส่วนนั้นกลับมาทำงานแบบปกติ
ดร.ทายาท ศรีปลั่ง ได้เพิ่มอีก 2 ขั้นตอนใหม่ จนกลายมาเป็นย้อนรอยอดีตบำบัด ในแบบฉบับของชาวพุทธเถรวาทเป็นครั้งแรก คือ การเพิ่มขั้นตอน
- การสร้าง “บุญใหม่” ที่ให้ผลเร็ว เพื่ออุปถัมภ์ชีวิตจากบาปในอดีต
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางโลกควบคู่กันไป
กระบวนการการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกเป็นอย่างไร?
ผู้บำบัดจะพูดคุยถึงปัญหาที่ผู้เข้ารับการบำบัดต้องการจะเยียวยาแก้ไข แล้วนำเข้ากระบวนการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกโดยพาผ่อนคลายในระดับลึกเพื่อให้จิตใต้สำนึกขึ้นมาทำงาน จิตใต้สำนึกของคนเรานั้นมีพลังและสามารถจดจำเหตุการณ์หรือเรื่องราวในอดีตได้อย่างแม่นยำ เขาสามารถนำเราไปสู่ปมปัญหาหรือความขัดแย้งภายในใจที่สร้างปัญหาให้กับเราในปัจจุบันได้ ซึ่งสามารถที่จะพาย้อนไปในชีวิตปัจจุบันหรือแม้กระทั่งอดีตชาติได้ ในบริการการเยียวยาจิตใต้สำนึกแบบ ย้อนอดีตชาติบำบัด Part Life Regression Therapy นั้นจำเป็นต้องบำบัดแบบส่วนตัวเพราะมีขั้นตอนและกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้งกว่าการย้อนอดีตในชาติปัจจุบัน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการของจีสามารถที่จะเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกแบบออนไลน์ได้
การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกออนไลน์ต้องทำยังไงบ้าง?
ถ้าหากต้องการใช้บริการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกออนไลน์ ซึ่งเป็นบริการของจี คุณสามารถทักอินบ๊อกซ์เพจเยียวยารักษาใจ : Heal your mind by GG เพื่อพูดคุยรายละเอียดถึงปัญหาเบื้องต้นที่ต้องการเยียวยาแก้ไขและสามารถนัดหมายวันเวลาที่สะดวกในการเยียวยาบำบัด ซึ่งคุณจำเป็นต้องมีพื้นที่ส่วนตัวในการบำบัดที่ไม่มีใครรบกวนหรือเสียงรบกวน และมีหูฟังที่ใช้เสียบกับโทรศัพท์เพื่อรับฟังเสียงตามกระบวนการเยียวยบำบัดจิตใต้สำนึก ระยะเวลาในการบำบัดจะขึ้นอยู่กับปัญหาที่คุณต้องการเยียวยาแก้ไขซึ่งแต่ละคนจะแตกต่างกันไป
หากใครที่เจ็บป่วยด้วยโรคซึมเศร้า โรคทางจิตเวชอื่น ๆ หรือมีปัญหาสุขภาพจิต ชีวิตติดขัดมีปัญหาชีวิตเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อยากพัฒนาชีวิตและจิตใจตัวเอง จีขอแนะนำให้เปิดใจเรียนรู้และเลือกการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกหรือการเยียวยารักษาใจและพัฒนาคุณภาพชีวิต ยกระดับคุณภาพชีวิตและจิตใจของคุณให้มีความสุขและประสบความสำเร็จในแบบที่คุณต้องการนะคะ

ที่มา : หนังสืออดีตชาติบำบัด พลิกกรรม เปลี่ยนชีวิต โดย ดร.ทายาท ศรีปลั่ง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม>>> โรคซึมเศร้า รากเหง้าของปัญหาและการเยียวยาบำบัดจิตใจ
[…] จีป่วยด้วยโรคซึมเศร้ามายาวนานเกือบ 10 ปี จัดว่าเป็นผู้ป่วย “โรคซึมเศร้าเรื้อรัง” จีพยายามที่จะหาหนทางในการรักษาบำบัดและดูแลตัวเองเพื่อพาตัวเองก้าวข้ามผ่านเส้นทางของโรคซึมเศร้านี้ แต่ดูเหมือนว่าจะยังก้าวไม่พ้น เนื่องจากรู้สึกว่ามีบางอย่างภายในจิตใจที่ขัดแย้งซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอาการให้รุนแรงและกลับมาป่วยซ้ำอีกด้วย มันทำให้จีคิดว่า ยาไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการรักษาโรคซึมเศร้า จนจีได้ค้นพบการบำบัดจิตใต้สำนึก ซึ่งมันช่วยให้จีได้ค้นพบต้นตอสำคัญหรือรากเหง้าของปัญหาความเจ็บป่วยทางใจของจีไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคแพนิก รวมทั้งปัญหาทางด้านบุคลิกภาพ จีจึงนำข้อมูลความรู้ความเข้าใจนี้มาแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ค่ะ […]
[…] ข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่งคือ การเจริญสติ บำบัดโรคซึมเศร้า จะใช้ได้ผลดีกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีอาการไม่รุนแรง หรืออาการทรงตัวมีสติมากขึ้นแล้ว หากอาการยังรุนแรงอยู่ควรรอให้อาการสงบและทรงตัวก่อนจะได้ผลดีกว่า และผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีปัญหาหรือปมในใจในวัยเด็กที่ส่งผลให้จิตใต้สำนึกมีปัญหาแบบจี การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก จะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งให้การฝึกเจริญสติได้ผลดีขึ้นและพัฒนาคุณภาพชีวิตและจิตใจได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย […]
[…] […]
[…] CBT และการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกมันช่วยให้จีมีความคิดที่ดี […]
[…] รวมทั้ง เยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก […]
[…] การฝึกปรับสมดุลและล้างจักระรวมถึง การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก […]
[…] จีขอแนะนำให้คุณ เยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก […]