จากประสบการณ์การป่วยด้วยโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวลและโรคแพนิก ของตัวเองที่ผ่านมา หลังจากที่สามารถหยุดกินยารักษาได้แล้ว จีก็ยังคงมีอาการบางอย่างที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมาตลอด ในบางช่วงที่ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคในชีวิต ที่มันมากระทบใจมาก ๆ เข้ามันก็ทำให้อาการกำเริบ จีสังเกตความคิดและพฤติกรรมตัวเองหลาย ๆ อย่าง ที่มันเป็นตัวกระตุ้นอาการเดิม ๆ ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเครียดและความวิตกกังวลสูง แล้วจีก็พบว่าตัวเองมี “บุคลิกภาพผิดปกติ” ซึ่งมันเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการดำเนินของโรค
จากข้อมูลที่จีรวบรวมเพื่อทำความเข้าใจกับบุคลิกภาพที่ผิดปกติของตัวเอง ซึ่งมันทำให้จีได้เข้าใจบุคลิกภาพของตัวเองได้มากขึ้น และช่วยเป็นแนวทางให้จีได้ปรับเปลี่ยนและพัฒนาบุคลิกภาพของตนเองที่ผิดปกติไปให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถปรับตัวปรับใจได้ดีขึ้นกับหลาย ๆ สถานการณ์ที่จีไม่สามารถปรับตัวได้จนส่งผลให้จีป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย
บุคลิกภาพผิดปกติ (Personality Disorders) หมายถึง ลักษณะรูปแบบพฤติกรรมที่บุคคลแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม เบี่ยงเบนไปจากความคาดหวังของสังคม มีรูปแบบคงที่และไม่ยืดหยุ่นในหลายสถานการณ์จนส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานและการดำเนินชีวิต
เกณฑ์การประเมินความผิดปกติทางจิต (DSM-5) ของสมาคมจิตแพทย์สหรัฐอเมริกา ได้แบ่งบุคลิกภาพผิดปกติ ไว้ 3 กลุ่ม คือ
Cluster A ได้แก่ Paranoid, Schizotypal และ Schzoid
Cluster B ได้แก่ Borderline, Histrioni, Antisocial และ Narcisistic
Cluster C ได้แก่ Avoidance, Dependent และ Obscessive-Compulsive
สาเหตุของการเกิดบุคลิกภาพผิดปกติ สามารถอธิบายได้หลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวคิด สังคมวัฒนธรรมและแนวคิดทางชีวภาพ
อ่านข้อมูลบุคลิกภาพผิดปกติเพิ่มเติม>>>ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ
จีเริ่มศึกษาเรื่องบุคลิกภาพอย่างจริงจัง รวมทั้งปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก็พบว่าตัวเองเข้าข่ายมี บุคลิกภาพผิดปกติแบบก้ำกึ่ง หรือบอร์เดอร์ไลน์ (Borderline Personality Disorder) ซึ่งจีก็พยายามฝึกปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพของตัวเองให้ดีขึ้น มันช่วยให้อาการของโรคทางจิตเวชที่จีมีดีขึ้นและยังสามารถช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้
การทำความเข้าใจเรื่องบุคลิกภาพของตัวเอง ทำให้จีได้เรียนรู้และเข้าใจความคิดและพฤติกรรมตัวเองมากขึ้น มันช่วยให้จีได้รู้สาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้จีเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล รวมทั้งโรคแพนิค และสามารถที่จะหาวิธีรับมือและจัดการกับมันได้อย่างที่ควรจะเป็น จีจึงนำข้อมูลความรู้มาแชร์กับเพื่อน ๆ เผื่ออาจจะเป็นประโยชน์กับใครหลาย ๆ คนที่ป่วย เพื่อที่จะได้เข้าใจตัวเองและสิ่งที่กำลังเผชิญมากขึ้นค่ะ
บุคลิกภาพผิดปกติแบบก้ำกึ่ง หรือบอร์เดอร์ไลน์ (Borderline Personality Disorder) จัดอยู่ในกลุ่ม Cluster B พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายซึ่งมีลักษณะเด่น คือ มีความไม่มั่นคงทั้งในส่วนตัวตน อารมณ์ ภาพลักษณ์ต่อตนเองและความสัมพันธ์ต่อผู้อื่น รวมทั้งไม่สามารถควบคุมตนเองได้เป็นอย่างมาก รูปแบบดังกล่าวเป็นไปแทบทุกเรื่อง ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้ 5 ข้อขึ้นไป
- กลัวการถูกทิ้งจึงพยายามทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ตัวเองถูกทอดทิ้ง
- เดี๋ยวรักเดี๋ยวเกลียด ความสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่มั่นคง สับเปลี่ยนไปมาระหว่างการยกย่องเทิดทูนกับการด่าว่าไม่เห็นคุณค่า
- สับสนในตัวเอง มีภาพลักษณ์ของตนเองไม่คงที่อย่างมาก “เวลาดีก็ดีใจหาย เวลาร้ายก็ร้ายสุด ๆ”
- วู่วาม ควบคุมตนเองไม่ได้เป็นอย่างมาก เกิดขึ้นในอย่างน้อย 2 สถานภาพจนก่อให้เกิดผลเสีย เช่น ใช้เงินไม่ยั้ง ขับรถอย่างบ้าระห่ำ กินไม่หยุด เรื่องทางเพศ ใช้สารเสพติด
- ฆ่าตัวตายทำร้ายตัวเองอยู่เรื่อย ๆ
- อารมณ์แปรปรวนง่าย เปลี่ยนไปตามสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เช่น ไม่สบายใจ หงุดหงิด วิตกกังวล มักเป็นไม่กี่ชั่วโมง
- รู้สึกว่าตนเอง “ว่างเปล่า” อยู่ตลอดเวลา
- เมื่อโกรธจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เช่น อาละวาด ฉุนเฉียว มีเรื่องชกต่อยอยู่เรื่อย ๆ
- สูญเสียความทรงจำ ขาดสติ หรือมีความคิดหวาดระแวงเกิดขึ้นชั่วขณะ
การรักษาบำบัดบุคลิกภาพผิดปกติ
จิตบำบัด ช่วยฝึกควบคุมความวู่วาม ลดความไวทางอารมณ์หรือการไม่ยอมรับ เพิ่มรูปแบบการตอบสนองเมื่อเราต้องพบกับความเครียด จะช่วยให้รับมือกับสถานการณ์ได้ดีมีความยืดหยุ่นกับสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญได้มากขึ้น
รักษาด้วยยา จะช่วยประคับประคองอาการที่เกิดขึ้น เช่น ความวิกตกังวล อารมณ์ซึมเศร้า พฤติกรรมที่ก้าวร้าวหุนหันพลันแล่น และอาการทางจิตอื่น ๆ
จากข้อมูลบุคลิกภาพผิดปกติ ที่จีได้นำมาแชร์นี้ จีหวังว่าจะช่วยให้เพื่อน ๆได้เข้าใจตัวเองในเรื่องบุคลิกภาพมากขึ้น ซึ่งมันอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญและส่งผลให้เราป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคทางจิตเวชอื่น ๆ แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกหรือตกใจเมื่ออ่านข้อมูลแล้วคิดว่าตัวเองเข้าข่ายมีบุคลิกภาพผิดปกตินะคะ เพราะบุคลิกกาพสามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาได้เหมือนอย่างที่จีได้พัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองมาจนหายป่วยและกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้มากกว่าเดิม
หากเพื่อนๆคิดว่าตัวเองมีบุคลิกภาพผิดปกติ หรือมันเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อโรคซึมเศร้า ของตัวเอง ก็ควรที่จะปรึกษาจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำหรือแนวทางในการรักษาบำบัดที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนค่ะ
Cover Photo by Pixels
ที่มา : เพจคลีนิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา,MinuteVideosThailand,วิกิพีเดีย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม>>>
เรารู้จักตัวเองดีแค่ไหน?มาลองทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI กัน
