คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตหรือเปล่า? “นิสัย” เป็นสิ่งที่ทรงพลัง “นิสัยจะเปลี่ยนการกระทำให้เป็นทัศนคติและเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นรูปแบบการดำเนินชีวิต” ชาร์ลีน อาร์มิเทจ ได้เคยกล่าวไว้ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลายคนไม่มีความสุขกับชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น นั่นก็อาจเป็นเพราะเรามี “นิสัย” ไร้ความสุข ซึ่งเป็นนิสัยบางอย่างที่ปิดกั้นความสุขและความสำเร็จของตัวเราเอง แล้วเราก็มักจะไม่รู้ตัวหรือมองไม่เห็นว่ามันเป็นเช่นนั้น จีก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าชีวิตไม่ก้าวหน้าไปไหน ไม่ค่อยมีความสุขในชีวิต ก็อาจจะเป็นได้ว่าคุณมีนิสัยไร้ความสุข ลองเปิดใจและสำรวจตัวเองกันดูนะคะ จีนำ 7 นิสัย ไร้ความสุข มาแชร์กันค่ะ คุณมีนิสัยเหล่านี้ไหม? มาเช็คนิสัยตัวเองกัน
7 นิสัย ไร้ความสุข
1. นิสัยชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
โดยธรรมชาติของคนเรานั้นมักจะเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นอยู่เสมอ แต่ถ้าเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นมากเกินไปจนทำให้ตัวเองทุกข์ หรือรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า เราก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเองให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากเราเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นในระดับปกติหรือเพื่อพัฒนาตนเอง มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจ ผลักดันตัวเองให้ตัวเองทำเป้าหมายได้สำเร็จ
หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนนิสัยนี้ ควรเริ่มตระหนักรู้ว่าตัวเองและยอมรับก่อนว่าคุณมีนิสัยชอบเปรียบเทียบ แล้วปรับเปลี่ยนจากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น มาเป็นเปรียบเทียบตัวเองในวันนี้กับเมื่อวานเพื่อที่จะช่วยให้เราได้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แล้วมองหาข้อดีของตัวเองเพื่อที่จะช่วยให้เรารู้สึกภูมิใจหรือพึงพอใจในตนเองมากขึ้นดีกว่าค่ะ
2. นิสัยรักความสมบูรณ์แบบหรือเพอร์เฟกชันนิตส์
คนที่มีนิสัยเพอร์เฟกชันนิสต์ (Perfectionist) ในด้านดีมีมากมาย มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ชอบพัฒนาตนเอง ทำงานเป็นระบบระเบียบและมันช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ แต่ถ้าหากเสพติดความเพอร์เฟกชันนิสต์มากเกินไปหรือสุดโต่ง ขาดความยืดหยุ่น มันก็ยากที่คนที่มีนิสัยแบบนี้จะมีความสุขได้ง่าย เพราะจุดอ่อนมักจะเป็นคนเครียดกังวลง่าย รู้สึกไม่ดีพอ มองหาแต่ข้อผิดพลาดของตัวเองและผู้อื่น
วิธีรับมือกับนิสัยนี้ ให้ตระหนักรู้ในตนเองว่า เรามีทั้งข้อดีหรือจุดแข็งและมีจุดอ่อน อะไรที่เป็นข้อดีเรารักษาและพัฒนาเข้าไว้ ส่วนอะไรที่มันสุดโต่งหรือตึงเกินไปก็ฝึกยืดหยุ่นทั้งกับตัวเองและผู้อื่นให้มากขึ้น เพราะมันจะช่วยให้เรามีความสุขในแบบของตัวเองและสามารถอยู่ร่วมหรือทำงานกับผู้อื่นได้อย่างลื่นไหลมากขึ้นค่ะ
3. นิสัยยึดติดอยู่กับอดีตและกังวลไปกับอนาคต
หลายคนยึดติดอยู่กับอดีตจนไม่อาจถอนตัวถอนใจออกจากอดีตที่เจ็บปวดนั้นได้ เพราะชอบคิดถึงหรือพูดถึงเรื่องราวในอดีตซ้ำ ๆ บางทีผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ยังพูดถึงอยู่อย่างนั้น การยึดติดอยู่กับอดีตมีแต่จะสร้างความเจ็บปวดและฉุดรั้งชีวิตจิตใจตัวเอง คนที่เป็นแบบนี้จะมีรูปแบบทางความคิดอัตโนมัติแบบชอบคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตวนอยู่อย่างนั้น จากนั้นก็ปล่อยใจกังวลไปกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ทำให้ไม่มีความสุขกับชีวิตในปัจจุบัน พอมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นคล้ายกับอดีตที่เคยสร้างความทุกข์ความเจ็บปวด ก็จะกลับไปคิด กังวลและระแวง ไม่สามารถวางใจตัวเอง และยังไม่สามารถไว้วางใจผู้อื่นได้เช่นกัน เช่น คนที่เคยผิดหวังกับความรัก เคยอกหักหรือหย่าร้างมาก่อน พอมาเจอกับคนดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ก็รู้สึกกลัวจะเป็นแบบในอดีต จากนั้นก็วิตกกังวลไปกับอนาคตคิดไปไกล ทั้ง ๆ ที่มีคนดี ๆ เข้ามาในชีวิตก็ยังไม่สามารถมีความสุขได้ เพราะความกลัวจากเหตุการณ์ในอดีตยังฝังใจนั่นเอง
สิ่งที่จะช่วยให้สามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้ ก็คือ หยุดคิดถึงอดีต หยุดพูด หยุดบ่นหรือเล่าเรื่องราวนั้นซ้ำ ๆ เพราะยิ่งทำอย่างนั้นยิ่งตอกย้ำตัวเองให้นึกถึง แล้ว จิตใต้สำนึก เขาจะดึงดูดสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นกับเราได้อีก ถ้าหากความคิดในอดีตมันผุดขึ้นมารบกวน อย่าไปห้ามความคิด แต่ให้เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น ที่จะช่วยให้เรารู้สึกดีมีความสุข ฝึกไปแบบนี้เรื่อย ๆ จะพบว่าอิทธิพลในอดีตที่มีต่อใจเรามันจะลดลงไปเอง แล้วฝึกโปรแกรมจิตตัวเองให้นึกถึงสิ่งดี ๆ คนดี ๆ ที่เราต้องการให้เข้ามาในชีวิตแทน จะช่วยให้เรามีความสุขและสามารถดึงดูดสิ่งดี ๆ คนดี ๆ ที่เราคู่ควรเข้ามาในชีวิตเราได้มากขึ้น
4. นิสัยชอบจับผิด
คนที่มีนิสัยแบบนี้จะคล้ายจอมเพอร์เฟค จะทำอะไรต้องเป๊ะ ต้องออกมาดีที่สุด เมื่อมีอะไรที่ไม่เป็นไปดั่งใจตัวเองต้องการก็จะรู้สึกหงุดหงิด ซึ่งมันส่งผลต่อคนรอบตัว สร้างความกดดัน ความเครียด ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นอีกด้วย เพราะจะมองโลกในแง่ร้าย อิจฉาริษยา จิตใจเศร้าหมองง่าย เพราะชอบจับผิดผู้อื่น
สิ่งที่ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ คือ เมื่อเราใช้ชีวิตหรือทำงานร่วมกับผู้อื่น ให้เราลองฝึกมองหาด้านดี สิ่งดี ๆ ในตัวผู้อื่น เมื่อเขาทำอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกใจเรา มันจะช่วยเบี่ยงเบนความคิดเราให้มองเขาในด้านดี และอภัยกับความผิดพลาดมองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อยที่ไม่ถูกใจเราไปได้ง่ายขึ้น ฝึกขอบคุณผู้คนเหล่านั้น มองผู้อื่นในแบบที่เขาเป็นแล้วยอมรับ ยืดหยุ่นให้มากขึ้น เราจะมีความสุขง่ายขึ้นอีกเยอะเลย
5. นิสัยชอบบ่นว่า แต่ไม่กล้าลงมือทำ
การบ่นเป็นการระบายออกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าบ่นไปเรื่อยบ่นไม่หยุดมันก็สามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่นได้ และมันสะท้อนให้เห็นทัศคติของคนบ่น ตอกย้ำให้ตัวเองกลายเป็นคนคิดลบ และยิ่งตอกย้ำแบบนั้นมากเท่าไหร่มันก็จะทำให้ความรู้สึกนึกคิดด้านลบเหล่านั้นฝังลงไปในจิตใต้สำนึก ดึงดูดสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต เพิ่มความทุกข์ให้ตัวเองมากขึ้นอีกด้วย หลายคนบ่นจนนิสัยเป็นความเคยชิน แล้วมักไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีนิสัยแบบนี้ บางทีบ่นว่าคนอื่นในเรื่องนั้น แต่พอให้ตัวเองลองทำบ้างก็ไม่กล้า หลีกเลี่ยงหาข้ออ้างข้อแก้ตัวมากมายมาเบี่ยงเบนไปเรื่อย
ลองสังเกตตัวเอง ทั้งความคิด คำพูดและการกระทำ ระวังคำพูดตัวเองให้มาก แล้วหา วิธีระบายออกที่สร้างสรรค์ เพื่อระบายอารมณ์ความรู้สึกด้านลบของตัวเองออกมา ฝึกมีสติรู้เท่าทันความคิดด้านลบ เพื่อหยุดตัวเองไม่ให้บ่นออกมาโดยไม่ได้คิดเหมือนเดิม ไม่มีใครชอบคนบ่น แม้กระทั่งตัวเราเองก็ไม่ชอบใช่ไหมคะ ถ้าเราไม่ชอบอะไรเราก็อย่าทำแบบนั้นกับผู้อื่น เพราะคำพูดนั้นมีพลังและเป็นพลังงาน ยิ่งถ้ามันกลายเป็นความรู้สึกไปแล้วยิ่งมีพลัง มันสามารถสร้างสรรค์และทำลายล้างทั้งต่อตัวเองและผู้อื่นได้อย่างที่เราไม่คาดคิด
อ่านบทความเพิ่มเติม : พลังแห่งคำพูด
6. นิสัยแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไป
การแคร์ความรู้สึกของคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเราแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากเกินไปจนลืมที่นึกถึงความรู้สึกของตัวเองแล้วทำให้ตัวเองต้องทุกข์ใจนั้นไม่ดีแน่ หลายคนชอบคิดแทนคนอื่น คิดว่าคนอื่นเขาจะคิดหรือรู้สึกกับเรายังไง (คิดไปเอง) ไปให้ค่ากับความรู้สึกนึกคิดหรือความคิดเห็นของคนอื่นมากเกินไป บางทีความคิดเห็นของผู้อื่นนั้นไม่ได้เป็นประโยชน์และบั่นทอนจิตใจตัวเองก็ยังไปให้ค่าจนทำให้ตัวเองหมดกำลังใจ บ่อยครั้งที่อนุญาตให้คนอื่นมาตัดสินชีวิตเรา ยอมทำตามคนอื่นจนทำให้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป
สิ่งที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนนิสัยนี้ได้ คือ ฝึกรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเราเองและความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ว่าแท้ที่จริงแล้วเราต้องการอะไร คนอื่นอาจจะแนะนำเราได้ แต่เราต้องเป็นคนเลือกและตัดสินใจเพราะชีวิตเป็นของเรา แคร์ความรู้สึกตัวเองให้มากขึ้น โฟกัสที่ตัวเองให้เยอะ ๆ ไม่จำเป็นต้องไปคิดแทนคนอื่น คนอื่นจะรู้สึกนึกคิดต่อเราเช่นไร ไม่สำคัญเท่าเราคิดกับตัวเราเองอย่างไร กล้าที่จะปฏิเสธในสิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่ต้องการ มองให้เห็นคุณค่าและข้อดีของตัวเอง เพราะคนที่มีนิสัยเช่นนี้ที่พบส่วนใหญ่มักมี ความพึงพอใจในตนเองต่ำ (Low Self-esteem) มองไม่ค่อยเห็นคุณค่าในตนเอง รักตัวเองไม่เป็น
7. นิสัยชอบสมาคมกับคนที่มีนิสัย 6 ข้อข้างต้น
เมื่อคุณรู้แล้วว่า นิสัยที่กล่าวมานั้น เป็นนิสัยไร้ความสุข เมื่อตัวคุณเองไม่ต้องการมีนิสัยเหล่านี้ ก็ควรที่จะเลือกคบเพื่อนหรือคบคนที่มีนิสัยที่สร้างสรรค์ เพราะเราคบคนเช่นไร เราก็จะซึมซับคนนิสัยเช่นนั้นเข้ามาเช่นกัน แล้วหลังจากที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยเหล่านี้ได้ คุณก็จะพบว่าคนที่คุณคบก็จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน เพราะคุณมีนิสัยเช่นไรคุณก็จะดึงดูดคนที่มีนิสัยคล้ายกันเข้ามาในชีวิตคุณตาม กฎแห่งแรงดึงดูด
เมื่อก่อนจีก็เคยมีนิสัยไร้ความสุขเหล่านี้ แต่พอได้ตระหนักรู้ ทำความเข้าใจและยอมรับตัวเองได้ แล้วฝึกปรับเปลี่ยนพัฒนาตนเอง มันช่วยให้จีมีความสุขกับตัวเองและผู้คนรอบตัวได้มากขึ้น แล้วมันทำให้จีพบว่าการเปลี่ยนแปลงนิสัยนั้น มันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตเป็นไปในด้านดีได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว
หากคุณพบว่าคุณมี 7 นิสัย ไร้ความสุข ก็ลองปรับเปลี่ยนและพัฒนาตัวเองดูนะคะ เพราะนิสัยของคนเรานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ และมันจะช่วยให้เรามีชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ
อ้างอิงข้อมูล : The Best in you
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม : 7 สิ่งที่ควรหยุด ถ้าอยากมีความสุขและเป็นตัวของตัวเองที่ดี