หลายคนกลัวการสะกดจิตและยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องการสะกดจิตบำบัดและการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกอยู่ คุณรู้หรือไม่ว่าในทุก ๆ วันเรากำลังสะกดจิตตัวเองแบบไม่รู้ตัวอยู่เสมอ? ความคิดของคนเรานั้นมีพลังและเมื่อความคิดนั้นเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึก เป็นอารมณ์และเป็นพฤติกรรมหรือการกระทำของเราแล้วหากเราคิดไม่ดี สะสมความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดีเอาไว้มันก็จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราและสร้างปัญหาให้กับตัวเราเองและผู้อื่นได้ และความคิดของเรานี่เองมันเป็นตัวการสำคัญ โดยเฉพาะความคิดอัตโนมัติในด้านลบที่เรามีต่อตัวเราเอง หากเราไม่เคยฝึกรู้เท่าทันแล้วยังปล่อยให้ตัวเอง คิด พูดและทำในแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ มันก็คือการสะกดจิตตัวเองนั่นเอง จีอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำความเข้าใจและปรับทัศนคติต่อคำว่า “การสะกดจิต” และการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก เพื่อที่เราจะได้สะกดจิตตัวเองในแบบที่สร้างความสุขและความสำเร็จให้ตัวเองกันค่ะ
เราสะกดจิตตัวเองอยู่ทุกวันแบบไม่รู้ตัว?
เคยสังเกตตัวเองไหมว่าเรามักจะชอบคิดหรือพูดว่า ตัวเองเป็นคนไม่เก่ง ไม่ดีพอ เป็นคนล้มเหลว ไม่มีความสามารถ ไร้ค่า ไม่มีใครรัก ขัดสน ยากจน ฯลฯ การที่เราคิดหรือพูดแบบนี้ในด้านลบกับตัวเองบ่อย ๆ แล้วตอกย้ำด้วยการกระทำที่เป็นด้านลบ ความรู้สึกลบ ๆ เหล่านั้น จะยิ่งฝังลึกลงใน จิตใต้สำนึก ซึ่งเป็นจิตส่วนลึกของคนเรา แล้วเราก็จะเชื่อว่าเราเป็นเช่นนั้นจริง ๆ นั่นคือ “การสะกดจิตตัวเองแบบไม่รู้ตัว” และที่สำคัญมันมีอิทธิพลต่อโชคชะตาชีวิตเราในวันนี้และอนาคตอีกด้วย
ความคิดอัตโนมัติหรือเสียงในหัวของเรานั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะการคิดไม่ดีต่อตัวเอง การตำหนิและโทษตัวเองในใจอย่างอัตโนมัติจนทำให้เรารู้สึกไม่ดีต่อตัวเองและเชื่อว่าเราเป็นเช่นนั้น หลายคนมีเสียงในหัวที่มักจะชอบต่อว่าตัวเอง เช่น เมื่อทำผิดพลาดก็จะเกิดความคิดอัตโนมัติหรือเสียงในหัวต่อว่าตัวเองว่า ทำผิดอีกแล้วนะ ไม่ได้เรื่องเลย ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง ไม่เอาไหน ทำอะไรก็ไม่เคยสำเร็จ เป็นต้น หากเราต่อว่าตัวเองบ่อย ๆ เช่นนี้โดยไม่ตระหนักรู้แล้วเปลี่ยนความคิดนั้น แต่ปล่อยให้ตัวเองคิดแบบนี้ซ้ำ ๆ นั่นคือเรากำลังสะกดจิตตัวเองให้เชื่อว่าเราเป็นเช่นนั้น แล้วก็จะกลายเป็นความเชื่อของเราและเราก็จะใช้ชีวิตแบบนั้น ซึ่งเป็นการสร้างความทุกข์ให้กับตัวเองอยู่เสมอ
หากไม่เชื่อให้ลองสำรวจ ความคิด คำพูด และการกระทำที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันของตัวเองดูแล้วดูว่าตอนนี้ชีวิตเราเป็นเช่นไร? แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่คิดบวก มองโลกในแง่ดีหรือทำตรงกันข้ามกันกับที่กล่าวมาก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณสะกดจิตตัวเองได้ดีแล้ว แต่ถ้าหากไม่ใช่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะสะกดจิตตัวเองใหม่เพราะความรู้สึกนึกคิดด้านลบที่ไม่ดีหากฝังลงไปในจิตใต้สำนึก แล้วถูกสะสมไว้หากไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไขมันสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเรา สร้างปัญหาให้ชีวิตติดขัดและอาจก่อให้เกิดโรคทางกายและโรคทางใจได้
สะกดจิตบำบัดและการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก
หากพูดถึงคำว่า “สะกดจิต” หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างและดูเหมือนคำนี้จะน่ากลัวในความคิด แต่จริง ๆ แล้วการสะกดจิตนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดและมีการนำมาใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยได้ ทั้งผู้ป่วยที่เป็นโรคทางกายและโรคทางจิตเวช ซึ่งนิยมใช้ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยาและเป็นที่นิยมกันในต่างประเทศ รวมทั้งยังมีงานวิจัยรองรับอีกด้วยจีเคยเจ็บป่วยด้วยโรคทางกายและโรคทางใจ ซึ่งมันส่งผลให้จีมีความคิดด้านลบเกิดขึ้นและวนลูปอยู่อย่างนั้นจนจีเชื่อว่าตัวเองเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่เมื่อจีตั้งสติได้และได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง “การโปรแกรมจิตใต้สำนึก” หรือบางคนเรียกว่า “การสะกดจิตบำบัด” มันทำให้จีลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด (Mindset) ของตัวเองใหม่ เมื่อเปลี่ยนมุมองทางความคิดชีวิตก็เปลี่ยน
จีฝึกคิด พูดและทำในด้านบวกตอกย้ำมันลงไปในจิตใต้สำนึกในทุก ๆ วันอย่างต่อเนื่อง การทำแบบนี้มีงานวิจัยของต่างประเทศมากมายรองรับด้วยว่า มันสามารถเปลี่ยนโครงสร้างของสมองและสามารถเปลี่ยนคนที่ล้มเหลวให้กลายเป็นคนประสบความสำเร็จในชีวิตได้จริง ๆ หลังจากที่จีสนใจเรื่องจิตใต้สำนึกและต้องการเยียวยาบำบัดตัวเอง ฟื้นฟูและพัฒนาชีวิตจิตใจตัวเองในตอนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจีได้เรียนรู้ การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก ซึ่งจีก็ได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วมันสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตและจิตใจจีจากคนที่เคยล้มเหลวในชีวิตให้กลับมามีความสุขและประสบความสำเร็จได้อย่างที่เป็นในทุกวันนี้ อีกทั้งจียังสามารถช่วยเยียวยาเพื่อนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชอื่น ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรควิตกกังวล โรคแพนิกและไบโพลาร์ เป็นต้น
หากใครสนใจที่จะพัฒนาความคิดและจิตใจตัวเอง สามารถมาเรียนรู้การเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกและฝึกโปรแกรมจิตตัวเองให้ชีวิตมีความสุขและประสบความสำเร็จเป็นไปในทิศทางที่เราต้องการได้ ขอแนะนำ คอร์สเยียวยารักษาใจและพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นคอร์สที่จีตกผลึกการเรียนรู้ด้วยตัวเองเพื่อเยียวยารักษาใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองใหม่ในแบบที่ตัวเองต้องการอย่างแท้จริง อีกทั้งถ่ายทอดการเยียวยาและช่วยให้เพื่อน ๆ พัฒนาตนเองเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตและจิตใจใหม่ ทั้งผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคแพนิก ไบโพลาร์ รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาชีวิตติดขัดอีกด้วยค่ะ
เมื่อเราตระหนักรู้แล้วว่า เรากำลัง “สะกดจิตตัวเอง” ให้ไม่มีความสุขกับชีวิต เราก็ควรเลือกที่จะสะกดจิตตัวเองเสียใหม่ เลือกที่จะคิด พูดและทำในสิ่งดี ๆ ที่เราต้องการอย่างแท้จริง เราจะได้สามารถเปลียนเส้นทางชีวิตของเราใหม่ได้เพื่อความสุขและความสำเร็จในแบบที่เราคู่ควรนะคะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม>>> พลังจิตใต้สำนึก พลังมหัศจรรย์ในตัวเรา

[…] อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม>>> สะกดจิตตัวเอง […]