โรคซึมเศร้าส่งผลกระทบต่อชีวิตและจิตใจให้เป็นไปในด้านลบ การที่เราจะหายป่วยจากโรคซึมเศร้าแล้วกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขนั้น เราจำเป็นต้องฟื้นฟูและเยียวยาบำบัดทั้งชีวิตและจิตใจ ช่วงนี้เห็นเพื่อน ๆ หลายคนที่มีโรคซึมเศร้า มีอาการดีขึ้น เพราะจากที่เราได้คุยกันเพื่อน ๆ ก็ตั้งใจรักษาและหันกลับมาดูแลตัวเองเป็นอย่างดี มันเป็นสัญญาณที่ดีว่าเรากำลังจะก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปสู่ทางออกได้ในที่สุด วันนี้จีจึงนำแนวทางการคืนสู่สุขภาวะจากโรคซึมเศร้า มาฝากเพื่อน ๆ กันเพื่อเป็นแนวทางในการฟื้นฟูและเยียวยาตัวเองให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ค่ะ
อีกช่วงเวลาหนึ่งที่จีรู้สึกตื่นเต้นที่สุดสำหรับการเดินทางในโรคซึมเศร้า ก็คือ ช่วงเวลาที่จีมีความหวังว่าอีกไม่นานเราจะหยุดยาได้ จีพยายามหาข้อมูลความรู้และแนวทางในการดูแลตัวเองว่าเราจะต้องทำยังไงเพื่อให้ตัวเองสามารถที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจโดยไม่รู้สึกกลัวหรือหวั่นไหวมากนักกับการเดินทางที่ต้องปราศจากตัวช่วย นั่นก็คือ ยา แล้วจีก็ได้พบข้อมูลจากสมาคมสายใยครอบครัว ที่แแนะนำ แนวทางการคืนสู่สุขภาวะจากโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับจีที่ใช้แพลนและจัดการกับตัวเองเพื่อให้การเดินทางกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
แนวทางในการคืนสู่สุขภาวะจากโรคซึมเศร้า
1. รักษาความสัมพันธ์
สิ่งที่คนที่มีโรคซึมเศร้า ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือ ผลกระทบในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ภายในครอบครัว มีอิทธิพลและมีส่วนกระตุ้นให้ผู้ป่วยรู้สึกกดดัน เครียดและวิตกกังวลได้เป็นอย่างมาก
การฝึกปรับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวหรือคนใกล้ตัว จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องทำ เพื่อปรับความสัมพันธ์ของเราให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แล้วเราจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ หากเราไม่สามารถทำได้เองก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเราเอง
2. ท้าทายกับความคิดด้านลบของตัวเอง
ความคิดส่วนใหญ่ของคนที่มีโรคซึมเสร้า จะเป็นไปในทางลบ เนื่องจากอาการของโรคที่มีผลกระทบต่อการทำงานของสมอง เมื่อเราเข้ารับการรักษาและบำบัดแล้วมันก็จะเริ่มดีขึ้น หากเราเข้าใจอาการของโรคและเข้าใจตนเอง
การฝึกรับมือและจัดการความคิดของตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะมันจะช่วยให้เราท้าทายกับความคิดลบของตัวเราเอง เพื่อให้เรามีมุมมองทางความคิดที่ถูกต้องและสอดคล้องกับความเป็นจริง เมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคในชีวิตที่ไม่แน่นอน เราก็จะสามารถที่จะรับมือและจัดการกับมันได้อย่างเหมาะสม การบำบัดความคิดและพฤติกรรมช่วยได้มากทีเดียว
3. ดูแลตัวเอง
การฝึกดูแลตัวเองให้สมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ จะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดี การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สมดุลขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกินอยู่หลับนอนต้องสมดุล มันจะทำให้เรามีพลังชีวิตสมดุล และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็นได้
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป้นยาวิเศษที่ช่วยให้จีมีอการดีขึ้นอย่างชัดเจน หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สมองหลั่งสารเคมีที่ช่วยให้เรารู้สึกมีความสุข นั่นคือสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) และช่วยให้สารสื่อสมองอื่น ๆ สมดุลขึ้นด้วย การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยคลายความเครียดและความกังวล รวมทั้งจะช่วยให้ความคิดเป็นระบบระเบียบมากขึ้นด้วย จีมักจะแนะนำเพื่อนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเสมอว่าควรออกกำลังกายถ้าอยากอาการดีขึ้นและมันเป็นตัวช่วยสำคัญสนับสนุนให้เราหายป่วยได้
จีหวังว่าแนวทางการคืนสู่สุขภาวะจากโรคซึมเศร้า เหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังมุ่งมั่นพาตัวเองก้าวข้ามผ่านโรคซึมเศร้า ซึ่งมันเป็นแนวทางที่จีได้ฟื้นฟูเยียวยาชีวิตและจิตใจตัวเองที่ช่วยให้จีสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้มากขึ้น หากใครสนใจแนวทางในการก้าวข้ามผ่านโรคซึมเศร้าที่จีได้เรียนรู้สามารถอ่านบทความนี้เพิ่มเติมได้ค่ะ >>> 7 เคล็ดลับ เอาชนะโรคซึมเศร้าด้วยตัวเราเอง
ที่มา : สมาคมสายใยครอบครัว
Photo by Pexels
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม>>> 7 สิ่ง ที่คนมีโรคซึมเศร้าควรตระหนักรู้
หากต้องการพูดคุยกับจีหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าทางเลือก สามารถแอดไลน์เพิ่มเพื่อนได้เลยค่ะ
