หากคุณกำลังรู้สึกมองไม่เห็นทางว่าจะหายป่วยจากโรคซึมเศร้าได้ยังไง? อยากให้คุณเปิดใจอ่านบทความนี้ให้จบ จีขอส่งผ่านเรื่องราวและแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกคนสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ถือว่าเลวร้ายที่สุดในชีวิตอีกช่วงหนึ่งไปได้ เพื่อค้นพบความหมายและคุณค่าของการมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกันค่ะ จีเป็นอดีตผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่เจ็บป่วยมายาวนานและเคยสิ้นหวังกับการรักษา เคยรู้สึกมองเห็นไม่ทางเลยว่าตัวเองจะพาชีวิตรอดจากความตายไปได้อย่างไร? และจะมีโอกาสหายป่วยจากโรคซึมเศร้าไหม? เพราะตอนนั้นนอกจากจีจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว จียังมีโรควิตกกังวล โรคแพนิกและปัญหาบุคลิกภาพร่วมด้วย แต่สุดท้ายจีก็สามารถหายป่วยจากทุกโรคได้ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของตัวเองจากอดีตผู้ป่วยโรคซึมเศร้าสู่ผู้เยียวยาบำบัดจิตใจ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจและแนวทางการก้าวข้ามผ่านโรคซึมเศร้าและโรคจิตเวชอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนให้เพื่อน ๆ สามารถฝึกเยียวยาบำบัดตัวเองและกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีคุณค่าเช่นกันค่ะ

อดีตผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่เคยสิ้นหวังกับการรักษา

ประมาณปี พ.ศ. 2553 จีเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเครียดและได้เข้ารับการรักษาด้วยยาพร้อมทั้งการนัดหมายต่อเนื่องกับจิตแพทย์ ในช่วงนั้นจีต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ปัญหาการหย่าร้าง การงาน การเงิน ความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงและการทำงานที่อยู่ห่างกับลูกและครอบครัวทำให้จีรู้สึกเหมือนสู้อยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจ แบกรับภาระหนี้สินและความคาดหวังจากคนในครอบครัวและคนใกล้ตัวจนรู้สึกว่าตัวเองดิ่งสู่หลุมดำ ช่วงนั้นจีหันหน้าไปพึ่งแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติดจนส่งผลให้อาการรุนแรงทำร้ายตัวเองด้วยการกรีดข้อมือแบบนับครั้งไม่ถ้วนและฆ่าตัวตายในที่สุด แต่ไม่สำเร็จ จีได้เปลี่ยนโรงพยาบาลที่รักษาไปเป็นโรงพยาบาลเอกชนและได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง แล้วเริ่มกินยารักษาใหม่ประมาณ 6 เดือนอาการเริ่มดีขึ้นจึงหยุดยาเอง

การหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาคุณหมอและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ส่งผลให้จีกลับมาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าซ้ำและมีอาการรุนแรงอีกครั้ง ช่วงประมาณกลางปี พ.ศ. 2558 หลังจากจีย้ายไปอยู่ประเทศออสเตรเลียได้ประมาณปีกว่า จีได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและมีภาวะการปรับตัวผิดปกติ(Adjustment Disorder)  หลังจากได้รับการวินิจฉัยแล้วจีพูดคุยกับจิตแพทย์เพื่อต้องการรักษาแบบไม่ใช้ยา แต่ด้วยอาการที่รุนแรงจึงจำเป็นต้องกลับไปรักษาด้วยยา เมื่อได้พูดคุยรายละเอียดถึงอาการและประวัติการรักษาที่ผ่านมาทำให้จีได้รู้ว่าอาการที่ผ่านมาในการป่วยครั้งก่อนเข้าข่ายอาการของไบโพลาร์ มันทำให้จีสับสนว่าตกลงเราป่วยเป็นอะไรกันแน่และมีความกลัว ความวิตกกังวลว่าจะกลับไปมีอาการรุนแรงแบบเดิมอีก แต่จิตแพทย์บอกว่าไม่เป็นหรอก แล้วจัดยามาให้รวมทั้งนัดหมายเพื่อทำจิตบำบัดกับนักจิตวิทยาด้วย

หลังจากรักษาด้วยยาประมาณ 8 เดือน ก็ได้รับการวินิจฉัยอีกครั้งว่ามีโรควิตกกังวลและโรคแพนิกร่วมแจมเพิ่มมาอีกด้วย แต่คุณหมอก็ไม่ได้ปรับยาแต่อย่างใด จีได้ปรึกษาคุณสามีเพื่อให้เขาลองปรึกษากับเพื่อนของเขาที่เป็นจิตแพทย์และนักจิตวิทยาที่รู้จักกันช่วยวินิจฉัยในสิ่งที่จีสงสัยเพิ่มเติม เพราะรู้สึกว่าตัวเองมีปมปัญหาขัดแย้งภายในใจและปัญหาเรื่องบุคลิกภาพที่รู้สึกเหมือนมีสองคนในร่างเดียวและเป็นคนสุดโต่ง จึงได้รู้ว่าตัวเองมีปัญหาทางด้านบุคลิกภาพร่วมด้วย ซึ่งเข้าข่ายบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง Borderline Disorder ตอนนั้นจีจมอยู่กับอาการภาวะสิ้นยินดี จีรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิต รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองและไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมอย่างที่ควรจะเป็นได้  ทำให้จีรู้สึกสิ้นหวังกับการรักษาด้วยยากินมาก็นานแล้วทำไมยังไม่หาย เมื่อกินยาประมาณปีกว่าจนอาการทรงตัวและเห็นสมควรว่าต้องบอกลาคุณหมอและยาแล้ว จึงขออนุญาตคุณหมอหยุดยาเพื่อสู้ด้วยตัวเอง

ฝึกเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าด้วยตัวเอง แบบไม่ใช้ยา

ในช่วงที่จียังคงกินยารักษาโรคซึมเศร้าอยู่นั้น จีได้ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า แนวทางในการรักษาและการเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะการรักษาบำบัดโรคซึมเศร้าทางเลือก (แบบไม่ใช้ยา) จนทำให้จีได้ค้นพบแนวทางการเยียวยาบัดโรคซึมเศร้ามากมายและนำมาปรับใช้เพื่อฝึกเยียวยาบำบัดตัวเองและแชร์ให้กับเพื่อนผู้ป่วยที่ติดตามจีทางเพจเยียวยารักษาใจ : Heal your mind by GG การเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าที่สำคัญที่เป็นหัวใจหลักช่วยให้จีรอดจากการกลับไปทำร้ายตัวเองและฆ่าตัวตาย นั่นก็คือ การใช้ธรรมะเยียวยาบำบัดจิตใจ จีได้ค้นพบข้อมูลการใช้ สติบำบัดโรคซึมเศร้า จีฝึกเจริญสติด้วยตัวเองตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ฝึกถอยออกมาดูกายดูจิตตัวเองจนจิตถอนตัวออกจากกองทุกข์และรอดพ้นความตายมาได้ในช่วงที่จีคิดฆ่าตัวตายอีกครั้ง แล้วฝึกพัฒนาต่อตามหลักสติปัฏฐานสี่ ฝึกเรียนรู้การเยียวยาบำบัดแบบองค์รวม เป็นสิ่งที่ช่วยให้จีสามารถฟื้นฟูเยียวยาร่างกายและจิตใจของจีได้อย่างมาก จีเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องจิตใต้สำนึก NLP และจิตวิทยาพัฒนาตนเองโดยการอ่านหนังสือ หาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และดูคอร์สฟรีทางยูทูปทั้งของคนไทยและต่างประเทศที่เป็น Life Coach แล้วลงคอร์สออนไลน์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมกับนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้จีสามารถเยียวยาและพัฒนาตนเองได้

จากอดีตผู้ป่วยโรคซึมเศร้าสู่ผู้เยียวยาบำบัดจิตใจ

การย้ายจากออสเตรเลียกลับมาอยู่เมืองไทยทำให้จีต้องปรับตัวปรับใจครั้งใหญ่อีกครั้ง และแน่นอนว่าจีเคยมีภาวะปรับตัวผิดปกติและเข้าข่ายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรังมันจึงเกิดอาการต่าง ๆ วนกลับมารบกวนจิตใจ ซึ่งจีมีความเสี่ยงที่จะกลับไปป่วยเป็นโรคซึมเศร้าซ้ำสูงมาก แต่จีเองได้ตระหนักรู้และแพลนการรับมือล่วงหน้าไว้บ้างแล้วเพราะรู้ว่าตัวเองจะต้องเผชิญกับภาวะเหล่านี้  แต่ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้จีจมดิ่งสู่ความเศร้าหมองอีกครั้ง จีจึงตัดสินใจโทรปรึกษานักจิตวิทยาและได้เข้ารับการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึก หลังจากนั้นจีก็ได้ค้นพบจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายในการเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าของตัวเองเพื่อป้องกันการกลับไปป่วยซ้ำได้สำเร็จ แล้วตัดสินใจเรียนรู้และอบรมหลักสูตร “การถอยจิตสู่อดีตและอดีตชาติเพื่อการเยียวยา” (Part Life Regression Therapy) ตามแนวทางของ ดร.ไบรอัน แอล ไวส์ (Dr.Brian L. Weiss) จิตแพทย์ผู้มีชื่อเสียงชาวอเมริกัน  และฝึกเป็นผู้เยียวยาบำบัดจิตใจ เรียนรู้เพิ่มเติมการเยียวยาเด็กน้อยในตัวเรา (Inner Child Healing) รวมถึงการพัฒนาจิตวิญญาณ

เมื่อถึงจุดที่จีรู้สึกประสบความสำเร็จสามารถเยียวยาบำบัดตัวเองจนหายป่วย แบบไม่ต้องใช้ยาและสามารถป้องกันการกลับไปป่วยซ้ำได้ จีจึงมั่นใจในแนวทางการเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชอื่น ๆ ของตัวเอง อีกทั้งยังได้รับการตอบรับจากเพื่อนผู้ป่วยมากมายที่สามารถลดการใช้ยาและหยุดยา รวมทั้งหายป่วยได้ จีจึงได้เปิดคอร์สออนไลน์ 7 เคล็ดลับ เอาชนะโรคซึมเศร้าด้วยตัวเราเอง เพื่อถ่ายทอดแนวทางการเยียวยาบำบัดตัวเองจนหายป่วยจากโรคซึมเศร้าของจี และมีคอร์สดูแลส่วนตัวต่อเนื่องเพื่อเยียวยาบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ต้องการเรียนรู้การเยียวยาและพัฒนาตัวเองเพื่อลดการใช้ยาและหยุดยาได้ รวมทั้งให้บริการโทรรับฟังด้วยใจเพื่อให้เพื่อนผู้ป่วยได้พูดคุยระบาย และการเยียวยาบำบัดจิตใต้สำนึกออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการเยียวยาบำบัดอีกด้วย

จีไม่ใช่จิตแพทย์ ไม่ใช่นักจิตวิทยา แต่จีเป็นอดีตผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์อันทรงคุณค่าในการเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าทางเลือก ที่จะสามารถช่วยดูแล เยียวยา สนับสนุน เป็นกำลังใจและช่วยแนะนำแนวทางการเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าที่เหมาะสมกับเพื่อนผู้ป่วยแต่ละคนได้ จีสามารถตอบโจทย์และเติมเต็มในสิ่งที่จิตแพทย์และนักจิตวิทยาไม่สามารถตอบโจทย์ของคุณได้ หากคุณกำลังกำลังมองหาแนวทางการเยียวยาบำบัดโรคซึมเศร้าทางเลือกหรือกำลังรู้สึกสิ้นหวังในการรักษาโรคซึมเศร้า ขอให้เปิดใจมาเรียนรู้เพื่อก้าวข้ามผ่านมันไปด้วยกันนะคะ

เพิ่มเพื่อน

All Photos by Pixabay.com

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม : ยาไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของ “การรักษาโรคซึมเศร้า”

3 COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here